สายเที่ยวคนไหนกำลังจะวางแผนไปตะลุยญี่ปุ่นต้องรีบตามมา เราจะพาเพื่อนๆ ไปบุกตะลุย รีวิวที่เที่ยวญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม พร้อมสอนซื้อตั๋วล่วงหน้ากับ Traveloka ซึ่งนอกจากจะมีตั๋วเครื่องบินและโรงแรมให้จองกันแล้ว ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือการจองบัตรเข้าสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นต่างๆ หรือจะจองทัวร์ญี่ปุ่นเก๋ๆ ได้ด้วย รับรองว่าการไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้จะง่ายขึ้นและสนุกกว่าเดิมแน่นอน หากใครยังไม่แน่ใจว่าจะจองทริปอะไรยังไงไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เราจัดทริป 1 อาทิตย์ในญี่ปุ่น ในโตเกียวและโอซาก้ามาให้เพื่อนๆ ดูกัน
ซื้อตั๋วหรือบัตรสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นล่วงหน้ากับ Traveloka คลิก
วันที่ 1
วันแรกย่อมเป็นวันแห่งการเดินทาง เที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ มายังโตเกียวนั้นใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง สนามบินในโตเกียวนั้นมีสองสนามบิน เพื่อนๆ สามารถเลือกบินไปลงที่สนามบินนานาชาตินาริตะ จองที่นี่ และสนามบินนานาชาติฮาเนดะ จองที่นี่ กันได้ โดยวันนี้เราเลือกบินไปลงยังนาริตะ จากนั้นใช้บริการรถไฟโตเกียวสกายไลเนอร์ ซึ่งให้บริการรถไฟความเร็วสูงตรงจากสนามบินนานาชาตินาริตะไปยังสถานีอูเอโนะ (Ueno Station) เมืองโตเกียว ใช้เวลาเพียงแค่ 41 นาทีเท่านั้น ซึ่งบริการรถไฟโตเกียวสกายไลเนอร์นั้นเราก็ได้ทำการจองผ่านฟีเจอร์ใหม่ของ Traveloka นั่นเอง สนนราคาอยู่ที่เที่ยวละ 6XX บาทเท่านั้น หากใครสนใจอยากใช้บริการรถไฟความเร็วสูงจากสนามบินนานาชาตินาริตะเข้าเมืองก็สามารถไปเลือกจองและอ่านรายละเอียด ที่นี่ ได้เลย
ซึ่งวิธีการจองกิจกรรมต่างๆ ทั้งตั๋วรถไฟ บัตรเข้าสถานที่ หรือทัวร์ญี่ปุ่นของ Traveloka นั้นก็ง่ายมาก เริ่มจากการคลิกเข้าไปที่ https://www.traveloka.com/th-th เลือกหมวด “กิจกรรม” จากนั้นระบุจุดหมายปลายทาง เช่น ตอนนี้เรากำลังมองหากิจกรรมและที่เที่ยวญี่ปุ่น ก็สามารถใส่คำว่า “ญี่ปุ่น” ลงไปได้ หรือใครอยากจะใส่ชื่อเมือง อย่างโตเกียว หรือโอซาก้า ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แล้วกด “ค้นหา” ได้เลย
จากนั้นก็จะมาโผล่มาหน้าถัดไป ซึ่งมีกิจกรรมยอดนิยมต่างๆ ในญี่ปุ่นให้ได้เลือกหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ และตั๋วรถไฟด้วย
เมื่อคลิกเข้ามาในหน้าตั๋วรถไฟโตเกียวสกายไลเนอร์ เพื่อนๆ ก็สามารถกดอ่านรายละเอียดต่างๆ ที่มีบนหน้าเว็บไซต์ก่อนตัดสินใจซื้อได้ เช่น สิ่งที่จะได้รับ / ลักษณะการใช้บัตรโดยสาร / วันและเวลาที่สามารถใช้ได้ / ราคา เป็นต้น
จากนั้นกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบ ทั้งจำนวนที่ต้องการและวันที่ต้องการใช้บริการ จากนั้นเมื่อทบทวนข้อมูลต่างๆ เรียบร้อยแล้ว สามารถกดจองเลย แล้วระบบจะพาเพื่อนๆ เข้าสู่หน้าถัดไป ซึ่งคือหน้าของการจองนั่นเอง เมื่อเข้าสู่หน้าการจองให้กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบพร้อมก่อนคลิกชำระเงิน
จากนั้นเมื่อมาถึงหน้าชำระเงิน เราสามารถเลือกช่องทางการชำระได้หลายรูปแบบ ทั้งการโอนเงิน ตัดบัตรเครดิต ตัดบัตรเดบิต หรือจะไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน หากเพื่อนๆ สังเกตราคารวมจะเห็นได้ว่าราคาแรกที่เห็นกับราคาสุดท้ายที่จ่ายจริงนั้นเท่ากัน เพราะ Traveloka ไม่มีบวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด เรียกได้ว่าง่าย สะดวกต่อการคำนวณ ซึ่งวิธีการจองนี้จะเหมือนกันในทุกกิจกรรมของ Traveloka ที่ทำให้เรื่องเที่ยว เรื่องการจองตั๋วกิจกรรมต่างๆ ที่เคยยุ่งยาก กลับกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที
เอาล่ะ! หลังจากได้ตั๋วรถไฟเข้าเมืองกันแล้ว ก็รีบไปเช็คอินเข้าที่พักโตเกียวก่อนออกไปเที่ยวกันเลยดีกว่า ทริปนี้ที่โตเกียว เราเลือกพักที่โรงแรมเอพีเอ ฮิกาชิ ชินจูกุ คาบุกิโชะ โรงแรมเครือ APA ที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ ราคาไม่แพง อยู่ไม่ไกลจากสถานีชินจูกุ ภายในห้องพักนั้นก็มีสิ่งอำนวยสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผม รับรองว่าพักผ่อนสบายๆ แน่นอน หากใครอยากจะจองที่พักนี้ก็สามารถจองผ่าน Traveloka ได้เลย ส่วนใครที่อยากลองดูที่พักโตเกียวอื่นๆ ก็มีให้เลือกอีกมากมาย สามารถไปเลือกชมกันได้
จองโรงแรม เอพีเอ ฮิกาชิ ชินจูกุ คาบุกิโชะ กับ Travleoka คลิก
หลังจากเก็บของเข้าที่พักกันเสร็จแล้วก็รีบออกมาเที่ยวที่เที่ยวญี่ปุ่นกันเลย ยิ่งที่พักของเราตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวอย่างชินจูกุแบบนี้ ก็ต้องออกไปตะลุยดูแถบชินจูกุกันสักหน่อย โดยเริ่มตั้งแต่การไปเดินฝั่งทิศตะวันตกของชินจูกุเพื่อดูตึกสูง โรงแรมหรู และดูศาลาว่าการโตเกียวที่เป็นเหมือนศูนย์กลางการปกครองของโตเกียวนั่นเอง จากนั้นไปต่อกันที่ฝั่งทิศตะวันออก ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโตเกียว มีสินค้าให้เพื่อนๆ เลือกซื้อมากมาย ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า รับรองว่าเดินกันขาลาก หมดตัวตั้งแต่วันแรกแน่นอน
หลังจากเดินเที่ยวกันหนำใจ ขอแนะนำแรร์ไอเทมอีกอย่างของชินจูกุที่ต้องมาดูให้ได้ ซึ่งก็คือการแสดงโชว์หุ่นยนต์สุดเจ๋งที่ Robot Restaurant ซึ่งใครๆ ต่างก็บอกว่าเป็นโชว์ที่ห้ามพลาดโชว์เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น เป็นการโชว์สุดอลังการ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมงนั้นเพื่อนๆ จะได้ชมโชว์หุ่นยนต์สุดตื่นตาตื่นใจ โดยเราแนะนำว่าให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่าน Traveloka กันก่อน เพราะร้านนี้คนเยอะจริงๆ
– จองบัตรเข้าชมการแสดงโชว์หุ่นยนต์ที่ Robot Restaurant ล่วงหน้า กับ Traveloka
วันที่ 2
เช้าวันที่สองนั้นเราจะไปที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตบริเวณย่านอาซากุสะ เพื่อไปชมวัดเซนโซจิ หรือวัดโคมแดงที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว โดยเพื่อนๆ สามารถแวะมาไหว้พระ ขอพร พร้อมซื้อเครื่องรางกลับไปเป็นของฝากให้คนทางบ้านได้อีกด้วย นอกจากนั้นบริเวณหน้าวัดยังมีถนนนากามิเสะ ถนนที่เป็นทางมุ่งตรงเข้าสู่วัด ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกช้อป ชิม กันให้หนำใจ และที่สำคัญอย่าลืมเช่าชุดยูกาตะเดินถ่ายรูปกันสวยๆ ด้วยนะ รับรองเข้ากับบรรยากาศสุดๆ
หลังจากนั้นหากเพื่อนๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะมาจะพบกับโตเกียวสกายทรี แลนด์มาร์คอันทันสมัยของโตเกียวซึ่งมีความสูงกว่า 634 เมตร ที่เพื่อนๆ สามารถซื้อบัตรขึ้นไปชมวิวกันแบบ 360 องศา แถมยังมี Skywalk ที่สูงที่สุดในโลกอยู่ที่นี่อีกด้วย วิวข้างบนบอกได้เลยว่าสวยตราตรึงใจสุดๆ ใครที่อยากไปชมวิวแต่ไม่อยากจะต่อคิวยาวๆ ก็สามารถซื้อบัตรล่วงหน้ากันจาก Traveloka ได้เลย
– ซื้อบัตรเข้า โตเกียวสกายทรี ล่วงหน้ากับ Traveloka
ไปชมวิวที่โตเกียวสกายทรีเสร็จก็ไปอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คน่าสนใจของโตเกียวอย่างชิบูย่ากันต่อดีกว่า ที่ชิบูย่านั้นมีห้าแยกชิบูย่าอันโด่งดัง ซึ่งเมื่อถึงเวลาคนข้าม เพื่อนๆ จะได้เห็นคนนับร้อยเดินข้ามถนนกัน ซึ่งเราสามารถเดินไปเดินแอคท่าถ่ายภาพสวยๆ ท่ามกลางฝูงคนได้อีกด้วย หลังจากได้ภาพสวยๆ กันแล้วก็ไปเดินช้อปปิ้งสินค้าหลากหายแบรนด์ที่มีอยู่เต็มสองข้างทาง หรือใครอยากจะทานราเมงข้อสอบที่ชิบูย่าก็มีให้เลือกทานถึง 2 สาขา ไม่ต้องต่อคิวยาวๆ เหมือนสาขาอื่นเลย
วันที่ 3
วันที่ 3 ได้เวลาพาเพื่อนๆ ไปที่เที่ยวญี่ปุ่น ท่องโลกเทพนิยายที่สุดเหนือจินตนาการกันที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งที่นี่มีทั้งเครื่องเล่นสนุกสนานให้เพื่อนๆ ได้เลือกไปเล่นหลากหลายโซน ทั้งแฟนตาซีแลนด์ ทูมอโรว์แลนด์ แอดเวนเจอร์แลนด์ และอีกมากมาย นอกจากนั้นมีตัวละครจากโลกดิสนีย์สุดน่ารัก ทั้งซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างมิกกี้เมาส์ หรือมินนี่เมาส์ให้ได้เลือกไปถ่ายรูปด้วย ที่สำคัญห้ามพลาดโชว์เด็ดๆ เช่น พาเหรดสุดหรรษาที่รับรองว่าจะมาเติมเต็มความฝันวัยเด็กของเพื่อนๆ พลุตอนกลางคืนนั้นก็สวยงามอลังการสุดๆ เช่นเดียวกัน โดยเพื่อนๆ สามารถใช้เวลาที่นี่ทั้งวันตั้งแต่เช้า 8 โมงยาวๆ กันไปจนถึงสี่ทุ่มเลยทีเดียว สำหรับบัตรเข้านั้นเราทำการซื้อผ่านหน้ากิจกรรมของ Traveloka เช่นเดียวกัน โดยมีราคาอยู่ที่ 2,XXX บาท เท่านั้น
– ซื้อบัตรเที่ยวชม โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ล่วงหน้า กับ Traveloka
วันที่ 4
ไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์แล้วจะไม่ไปดิสนีย์ซีคงไม่ได้ เพราะว่าโตเกียวดิสนีย์ซีนั้นไม่เหมือนดิสนีย์ที่ไหนที่เพื่อนๆ เคยไปมาในโลกนี้แน่นอน เพราะมาในธีมของ ภายในเราจะได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในดิสนีย์ซีด้วยการเดินหรือนั่งเรือ โซนที่เพื่อนๆ สามารถไปเที่ยวได้ เช่น เมดิเตอร์เรเนียนฮาร์เบอร์ พอร์ตดิสคัฟเวอรี หรือจะเป็นเมอร์เมดลากูน ที่เพื่อนๆ จะได้พบกับเจ้าหญิงเงือกน้อยแอเรียล ตอนกลางคืนนั้นก็จบลงด้วยโชว์เริ่ดๆ อย่าง แฟนแทสมิก! บอกได้เลยว่าที่ดิสนีย์ซีนั้นแค่ไปเดินเที่ยวชมความสวยงามของสวนสนุกแห่งนี้ก็คุ้มแล้ว
– ซื้อบัตรเที่ยวชมดิสนีย์ซี ล่วงหน้ากับ Traveloka
วันที่ 5
มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่นั่งชิงกันเซ็งคงไม่ได้ ชิงกันเซ็งนั้นเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือที่หลายคนอาจรู้จักกันในชื่อรถไฟหัวกระสุนที่จะพาเพื่อนๆ วิ่งด้วยความเร็วข้ามไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่นเมืองต่างๆ แถมยังตรงเวลามากอีกด้วย โดยวันนี้เราเลือกใช้บริการชิงกันเซ็งเดินทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้า ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง เพื่อนๆ ก็จะถึงยังที่หมาย แถมได้นั่งรถไฟผ่านภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย โดย 1 วันมีเที่ยวรถไฟจากโตเกียวไปยังโอซาก้าหลากหลายเที่ยว แต่เราขอแนะนำให้ออกช่วงเช้า จะได้ไปถึงที่หมายไม่เย็นเกินไป สามารถไปเดินเที่ยวเล่นได้ต่อไม่เสียเวลา
มาถึงเราก็จะรีบไปเก็บของเข้าที่พักโอซาก้า ซึ่งเลือกพักที่โรงแรมนิกโก โอซาก้า ใกล้กับสถานีชินไซบาชิ ในย่านโดทงโบริ ย่านช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ที่เราจะแนะนำให้ไป โดยที่พักโอซาก้าแห่งนี้ เป็นที่พักราคาไม่แพง มีพื้นที่ห้องกว้างเมื่อเทียบกับที่พักโอซาก้าอื่นๆ มีการตกแต่งทันสมัย ใช้สีที่ดูโมเดิร์นไม่น่าเบื่อ การบริการนั้นก็ดี บอกได้เลยว่ามาพักที่นี่คุ้มแน่นอน หากเพื่อนๆ อยากจะจองที่พักนี้ก็สามารถกดจองได้เลย
จองโรงแรม นิกโก โอซาก้า กับ Travleoka คลิก
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จก็รีบมุ่งหน้าไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตอย่างปราสาทโอซาก้า แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง มีลักษณะเป็นปราสาทสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ แม้ว่าจะเคยถูกเผาทำลายไปในอดีตแต่ก็ได้รับการฟื้นฟูใหม่จนเป็นปราสาทโอซาก้าในปัจจุบัน พื่อนๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 8 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติของปราสาท และยังมีส่วนของการจัดแสดงหมุนเวียนที่จะเปลี่ยนเรื่องน่าสนใจไปเรื่อยๆ อีกด้วย ส่วนบริเวณชั้นบนสุดนั้นเป็นจุดชมวิวอันสวยงามให้เพื่อนๆ ได้ชมสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้าได้ ยิ่งถ้าใครไปเที่ยวช่วงดอกซากุระบานเดือนมีนาคม ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
วันที่ 6
วันถัดมาขอพาเพื่อนๆ ไปตะลุยสวนสนุกที่เรียกว่าเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมอีกที่ ซึ่งก็คือยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน นั่นเอง ซึ่งวันนี้เราซื้อตั๋วล่วงหน้ามาจาก Traveloka ขอแนะนำเลยว่าเหมาะมากสำหรับคนที่อยากเก็บเครื่องเล่นให้ครบ ใช้เวลาที่นี่ให้ได้เต็มๆ ตั้งแต่แปดโมงครึ่งถึงสามทุ่ม เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตรยาว ไปถึงก็สแกนบาร์โค้ดเข้าได้เลย ขอบอกเลยว่าเครื่องเล่นที่นี่ไม่ใช่ระดับเด็กๆ ขาโหด ชอบความมันส์ต้องโฉบมาโดนกันให้ได้ ซึ่งเครื่องเล่นดังๆ ก็มีทั้ง The Flying Dinosaur ที่จะพาเพื่อนๆ ตีลังกากลับหัว บินไปพร้อมกับเจ้าไดโนเสาร์มีปีก หรือใครเป็นแฟนสไปเดอร์แมนอยากไปผจญภัยกับสไปเดอร์แมนก็มีเช่นกัน นอกจากนั้นสาวกมินเนียนยังไปเพลิดเพลินกับเหล่าเจ้าตัวเหลืองน่ารักได้อีกด้วย และที่สำคัญคือที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน มีโซนโลกเวทย์มนต์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ใครใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนฮอกวอตส์ซักครั้งต้องห้ามพลาด
– ซื้อบัตรยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน ล่วงหน้ากับ Traveloka
วันที่ 7
เช้าวันต่อมาจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุยโลกใต้ทะเลที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ซึ่งที่นี่มีไฮไลท์อยู่ที่ตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่บรรจุน้ำกว่า 5,400 ตัน มีทั้งปลาฉลามวาฬ ปลากระเบน เต่าทะเล ปลาโลมา และสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ให้ได้ชมกันมากมาย นอกจากนั้นยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมน่ารักๆ อย่างตัวนาก และเจ้าแมวน้ำอุ๋งๆ ให้ชมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย การเข้าชมนั้นจะเริ่มเดินวนตั้งแต่ชั้นบนลงไปชั้นข้างล่าง เป็นการจัดการแสดงที่ค่อนข้างแปลกตา แต่ก็เจ๋งมากทีเดียว พิเศษไปกว่านั้นยังมีมุมให้ทดลองจับสัตว์น้ำอื่นๆ เช่น ปลาฉลามตัวเล็กจิ๋ว ได้อีกด้วย โดยทั้งหมดที่เพื่อนๆ จะได้เห็นนี้ สามารถซื้อบัตรราคา 6XX บาทล่วงหน้าผ่านทาง Traveloka ได้เลย
– ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ล่วงหน้า กับ Traveloka
หลังจากนั้นช่วงบ่ายรีบเดินทางไปยังย่านโดทงโบริ ถ่ายรูปชูกำปั้นสองข้างขึ้นฟ้ากับป้ายกูลิโกะอันโด่งดัง หาของกินอร่อยๆ ทั้งทาโกะยากิเจ้าดัง เกี๊ยวซ่าสุดอร่อย แล้วช้อปปิ้งกันให้เพลินไปกับแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและแบรนด์นานาชาติได้บริเวณนี้ หรือจะเป็นร้านดองกิโฮเต้ชื่อดังก็ตั้งมีให้เพื่อนๆ ไปเลือกซื้อของฝากกันได้เลย รับรองเดินกันจนขาลาก กระเป๋าแบนแน่นอน
หลังจากช้อปปิ้งกันเสร็จก็รีบมุ่งหน้าไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย เป็นอันว่าจบทริปญี่ปุ่นแบบจัดเต็มกัน บอกได้คำเดียวเลยว่าถ้าไม่มี Traveloka ทริปนี้คงจะเป็นอีกทริปที่ต้องเสียเวลาไปยืนต่อคิวจองตั๋วสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หากใครอยากมีชีวิตดี๊ดี ท่องเที่ยวแบบจัดเต็มก็ต้องใช้บริการ Traveloka ฉบับครบจบที่เดียวทั้งโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมน่าสนใจ มาทำเรื่องเที่ยวที่เคยยากให้เป็นเรื่องง่ายกันดีกว่า