ว่ากันว่าน่านในหน้าฝนนั้นเขียวสดชื่นฉ่ำตาฉ่ำใจ น่านในหน้าหนาวนั้นก็อากาศดี๊ดี ส่วนน่านในช่วงย่างเข้าสู่หน้าร้อนแบบนี้จะเงียบสงบสุดสโลว์ไลฟ์ให้ฟีล new normal เว่อร์ๆ เลยเชียวละ บอกเลยว่าเป็นเวลาที่ขับรถเที่ยวน่านกันได้แบบแสนจะชิลล์กว่าช่วงไหน สำหรับคนชอบเที่ยวแบบเงียบๆ เรียบง่าย จองตั๋วเครื่องบินไปน่านกันให้ไวเลยจ้า และไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินหรือบริการรถเช่าเมืองน่าน หรือที่พักน่านก็จองผ่าน Traveloka ได้หมดเลยนะ เพราะนอกเหนือจากจะช่วยประหยัดเงิน เพราะมีโปรโมชั่นสุดคุ้มตลอด และยังรวมการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ที่เที่ยว หรือรถเช่าเอาไว้ในแอพเดียว ทั้งสะดวก ง่าย ราคาดีแบบนี้ เที่ยวน่านได้ง่าย และช่วยประหยัดงบที่พักน่านไปได้แบบแฮปปี้สุดๆ แน่นอน
จองตั๋วเครื่องบินไปน่านกับ Traveloka https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Nan.NNT
30 ที่เที่ยวน่านถ่ายรูปสวย
1. ดอยเสมอดาว
ดอยหลักไฮไลท์ในเมืองน่านที่เปิดให้ขึ้นไปใช้บริการกันได้ตลอดทั้งปี ดอยเสมอดาวนั้นนอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังเริ่ดตรงที่เดินทางง่าย เช่ารถขับขึ้นไปจอดที่ลานกางเต็นท์กันได้เลยจ้า ว่ากันว่าดอยเสมอดาวในฤดูร้อนนั้นฟ้าจะใส อากาศช่วงเช้าและค่ำก็ค่อนข้างเย็นสบาย ที่สำคัญคือไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันใช้กับผู้คนมากหน้าหลายตา อยากเสพวิวสวยในบรรยากาศดีๆ ต้องมาช่วงนี้เลย
2. หมู่บ้านสะปัน
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ก็เชื่อว่าคนรักความสโลว์ไลฟ์จะแฮปปี้ที่หมู่บ้านนี้แน่ๆ แม้จะเป็นช่วงที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนแบบนี้ก็เถอะ! เพราะด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่กลางขุนเขาทำให้หมู่บ้านสะปันนั้นมีอากาศเย็นสบาย แม้อาจจะไม่ได้หนาวสะใจเหมือนช่วงปลายปีแต่ก็ถือว่าชิลล์ทีเดียวละ อยากเลาะเที่ยวริมน้ำว้าที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านก็ทำได้ บรรยากาศก็สบายเพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก อยากสัมผัสหมู่บ้านสะปันให้เต็มที่ ปักหมุดมาช่วงนี้ได้เลย
3. น้ำตกสะปัน
ถึงจะไม่ได้เป็นน้ำตกไซส์ใหญ่สุดอลังการ แต่ข้อดีของน้ำตกสะปันก็คือมีน้ำตลอดทั้งปี น้ำตกนี้เป็นน้ำตกขนาด 3 ชั้นซึ่งมีความสูงห่างกันอยู่ในช่วง 3 – 6 เมตร ทางเข้ามาชมน้ำตกอาจจะต้องมีเดินและป่ายปีนกันบ้างนะ ไม่ถึงกับยากแต่ก็ไม่ได้ง่ายจนเกินไป ใกล้กันมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสายสั้นๆ ให้คนรักการเดินชมต้นไม้ได้เพลินกันด้วยจ้ะ มาน่านเมื่อไหร่ต้องจัดละนะ อย่าพลาดเชียว
4. หอศิลป์ริมน่าน
เห็นน่านเป็นเมืองเนิบๆ แบบนี้ แต่ที่นี่ก็มีสถานที่ฮิปๆ สำหรับสายอาร์ตเหมือนกันนะ หอศิลป์ฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ด้านในจัดแสดงทั้งนิทรรศการศิลปะแบบถาวรและหมุนเวียน โดยมีทั้งงานจิตรกรรม งานประติมากรรม ซึ่งมีทั้งแบบที่มีลักษณะประจำท้องถิ่นและแบบร่วมสมัย ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ถ้ามาเมืองน่านแล้วมองหาสถานที่เดินเล่นในบรรยากาศสบายๆ หอศิลป์ริมน่านต้องถูกใจคุณแน่นอน
5. ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
หนึ่งร้านกาแฟซิกเนเจอร์ของอำเภอปัว ซึ่งเป็นอำเภอยอดนิยมที่มาเที่ยวน่านแล้วถือว่าพลาดไม่ได้ เป็นร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ กลางทุ่งนาที่ซ่อนตัวอยู่หลังร้านลำดวนผ้าทอ จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นผ้าลายพื้นเมืองสวยๆ ถูกนำมาใช้ในการตกแต่งมุมต่างๆ ของตัวร้านให้เก๋ไม่ซ้ำใคร นี่จึงเป็นอีกพิกัดที่อยากให้แวะมานั่งพักแข้งขายืดเส้นยืดสาย จิบกาแฟกินขนมในบรรยากาศแสนสบาย ใครชอบถ่ายรูปรับรองจัดได้หลายมุมเลยละ
6. ทางโค้งหมายเลข 3
เรียกว่าเป็นพิกัดที่ต้องเห็นทุกคนแวะไปถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันแน่นอนจ้าเมื่อมาถึงเมืองน่าน กับเส้นทางหลวงหมายเลข 1081 สันติสุข – บ่อเกลือ ซึ่งมีวิวสวยมุมสูงให้ดูไปตลอดเส้นทาง และมีมุมสุดปังของทางโค้งคดเคี้ยวที่เรียงตัวกันออกมาเป็นเลข 3 ได้อย่างพอดิบพอดี ช่วงเข้าหน้าร้อนแบบนี้ถนนจะโล่งนักท่องเที่ยวน้อยกว่าช่วงอื่นด้วยนะ ใครอยากได้รูปเก๋ๆ ต้องมาแล้ว
7. วังศิลาแลง
แกรนด์ แคนยอน แห่งเมืองปัวที่สายผจญภัยรักธรรมชาติน่าจะสนุกเวลาไปเช็คอินกัน ที่นี่เป็นเส้นทางธารน้ำที่ไหลผ่านโตรกหินระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปชม ถ้าอยากได้บรรยากาศน้ำหลากแบบแน่นๆ สะใจต้องไปหน้าฝนเลยจ้า แต่ถ้ามาในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ จะเป็นช่วงที่ได้เห็นความสวยของชั้นหินสูงสองฝั่งอย่างชัดแจ่มเต็มตา เดินเข้ามาก็ง่ายกว่าช่วงน้ำหลากด้วยนะ เราว่าดีเลย
8. ผาผึ้ง
เป็นภูเขาหินปูนสูงกว่า 1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่เที่ยวได้ทุกฤดูกาลอีกแห่งของเมืองน่านเค้าละจ้า จากยอดผาผึ้งนั้นจะมองเห็นพื้นที่ของอำเภอบ่อเกลือได้แบบพาโนรามาเต็มๆ ตา ถ้าสภาพอากาศเป็นใจ จะเอาเต็นท์ไปกางก็ได้ หรือถ้าอยากได้ประสบการณ์น่ารักๆ ก็แนะนำให้ไปพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านบนดอยนี้จ้า ขึ้นดอยหน้าร้อนก็เก๋ไปอีกแบบนะ แถมอากาศด้านบนก็ค่อนข้างสบาย ขับรถขึ้นมาได้เลยชิลล์ๆ
9. บ่อเกลือโบราณ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเมืองน่านนั้นเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำเกลือบนเขาแห่งเดียวในโลก! แถมยังเป็นบ่อเกลือโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ที่ชุมชนในละแวกนี้ยังคงใช้กรรมวิธีดั้งเดิมในการผลิตเกลือสินเธาว์ และทุกวันนี้เค้ายังนำเอาเกลือที่ผลิตได้มาต่อยอดให้กลายเป็นโอท็อปประจำชุมชนอีกหลายอย่างเลยละ สนุก ได้ความรู้ แถมยังได้ช้อปปิ้งด้วยจ้า ปักหมุดโลด
10. วัดพระธาตุเขาน้อย
วัดเก่าแก่คู่เมืองน่านซึ่งมีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคเดียวกับองค์พระธาตุแช่แห้ง หรือราวๆ พ.ศ.2030 ด้วยศิลปะสไตล์ล้านนาผสมพม่า ซึ่งด้านในนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาน้อยซึ่งมีความสูง 240 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้านบนจึงมีลานชมวิวซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองน่านอยู่ตรงหน้า การขึ้นมาต้องบริหารข้อเข่ากันหน่อยนะ เพราะต้องขึ้นบันไดนาค 303 ขั้นจ้า แต่มาแล้วรับรองว่าฟิน!
11. วัดภูมินทร์
ถ้ามาเมืองน่านแล้วไม่แวะมาที่นี่ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงแบบเต็มที่ละนะ เพราะด้านในของวัดนี้นอกจากจะมีพระอุโบสถและองค์พระประธานที่สวยแปลกตาแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ‘กระซิบรักบันลือโลก’ ของปู่ม่าน – ย่าม่าน แห่งเมืองน่านเอาไว้ให้แวะชมกัน เดินทางก็ง่ายเพราะเป็นวัดที่อยู่ในตัวเมืองน่านเลยจ้ะ เป็นแหล่งเช็คอินที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองน่านเลยนะ อย่าพลาดเชียว
12. เสาดินนาน้อย – คอกเสือ
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของเมืองน่านที่มีทิวทัศน์ unseen แปลกตา และน่าแวะมาถ่ายรูปฮิปๆ อวดชาวโซเชียลไม่น้อยเลยเชียวละ เพราะมีสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นผาดินและเสาดินลักษณะแปลกตา จะว่าคล้ายแกรนด์ แคนยอนก็ได้ จะว่าใกล้เคียงกับแพะเมืองผีก็ไม่ผิด ในยุคก่อนที่ละแวกนี้มีเสือชุกชุมนั้น ชาวบ้านใช้ที่นี่เป็นสถานที่ต้อนเสือให้ตกลงไปก่อนที่จะเอาไม้แหลมแทงให้ตาย ทำให้หลายคนเรียกที่นี่ว่าคอกเสือจนถึงปัจจุบัน เป็นอีกพิกัดที่น่ามาถ่ายรูปกันจริงๆ
13. วัดพระธาตุแช่แห้ง
นับเป็นวัดคู่เมืองน่านที่มีอายุยาวนานมากว่า 600 ปี ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสุโขทัย ใครอยากเห็นรูปแบบสไตล์ช่างฝีมือเมืองน่านอย่างแท้จริงมาดูได้จากวัดนี้เลยจ้า ชาวล้านนาเชื่อกันว่าการได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุแช่แห้งนั้นจะส่งผลให้ชีวิตมีความสุข งานการก้าวหน้า และปราศจากโรคภัย เชื่อกันว่านี่คือองค์พระธาตุประจำตัวของคนเกิดปีกระต่ายหรือปีเถาะอีกด้วยนะ อยู่ห่างจากตัวเมืองแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้นจ้า ขับรถมาแป๊บเดียว!
14. โรงเรียนชาวนา ตำบลศิลาเพชร
ใครรักความสโลว์ไลฟ์ รวมถึงอยากได้ประสบการณ์การเป็นชาวนาซักครั้งในชีวิต แนะนำให้ลองไปเช็คอินที่ฟาร์มสเตย์แห่งนี้ดูเลยจ้า ที่นี่อยู่ในเขตอำเภอปัวซึ่งขึ้นชื่อเรื่องผืนนาเขียวขจี ความเก๋คือเป็นที่พักสไตล์ท้องถิ่นที่สะดวกสบายและเหมาะกับการมาพักผ่อนแบบสุดๆ ไปเลยละ บ้านทุกหลังตั้งอยู่กลางผืนนาเขียวขจี และยังเปิดให้เราได้เรียนรู้วิถีของชาวนาแบบดั้งเดิมด้วยอีกจ้า สนใจต้องแพลนล่วงหน้าเพราะเค้าจะเปิดอีกทีเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการทำนาโน่นเลย
15. วัดมิ่งเมือง
เดินทางง่ายเพราะตั้งอยู่ในตัวเมืองน่าน เป็นวัดสีขาวสะอาดซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองน่านที่เดิมทีนั้นเรียกว่าเสามิ่งเมือง ต่อมาได้มีการบูรณะพื้นที่บริเวณนี้และเสาหลักเมืองซึ่งผุพังจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ จนกลายเป็นวัดสวยสีขาวซึ่งรวมฝีมือช่างของสล่าเมืองน่านเอาไว้ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวอาคาร ลวดลายปูนปั้น หรือภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 12 ปี เป็นอีกหนึ่งพิกัดในเมืองน่านที่ไม่น่าพลาดจริงๆ
16. กำแพงเมืองเก่าน่าน
เป็นโบราณสถานอีกหนึ่งแห่งของเมืองน่านที่น่าสนใจและเหมาะจะใช้เป็นแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปได้ดีเชียวละ เชื่อกันว่าในอดีตนั้น กำแพงนี้เคยมีความยาวถึง 3,600 เมตรเลยเชียวนะ แต่ในปัจจุบันหลังจากผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี กำแพงนี้จึงเหลือให้เห็นอยู่เพียง 415 เมตรเท่านั้นจ้า แต่ก็ว่าไม่ได้นะ เพราะยังมีมุมสวยๆ อีกหลายมุมเชียวละให้มาเดินถ่ายรูปก็ได้ มาปั่นจักรยานก็ชิลล์ดี เป็นอีกพิกัดที่น่าปักหมุดไว้เลย
17. ดอยภูคา
เป็นอีกหนึ่งดอยไฮไลท์ในจังหวัดน่านที่ไม่ควรพลาดการแวะมา โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เพราะเป็นช่วงที่จะได้เห็นดอกชมพูภูคาซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่หายากที่สุดในโลก เนื่องจากจะพบได้แค่เพียงบนดอยภูคาแห่งนี้เท่านั้น และจะบานเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมของทุกปี บนดอยภูคายังมีถ้ำและน้ำตกอีกมากมายให้ได้แวะกันด้วยนะ จองด่วนๆ เลยจ้า ดอกชมพูภูคาบานรอแล้ว!
18. จุดชมวิว 1715
เป็นจุดชมวิวซึ่งถือเป็นไฮไลท์หลักแห่งหนึ่งของเส้นทางถนนลอยฟ้าปัว – บ่อเกลือเลยละ โดย 1,715 นั้นคือระยะความสูงของจุดชมวิวแห่งนี้ที่วัดจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นี่คือจุดที่คนใช้เส้นทางนี้เกือบทุกคนต้องแวะยืดแข้งยืดขาลงมาดูวิวหรือหาที่ถ่ายรูปกัน ช่วงเช้าของบางวันอาจจะมีทะเลหมอกให้ดูด้วยนะถ้าอากาศเป็นใจ อยากได้รูปสวยๆ กลับไป จุดนี้พลาดไม่ได้อีกเช่นกัน
19. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
เป็นพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดที่สวยเตะตาตั้งแต่ได้ผ่านมาเห็นอาคารด้านนอกเลยทีเดียว ที่นี่สร้างขึ้นในพื้นที่คุ้มของอดีตเจ้าเมืองน่าน และเคยเป็นอาคารหอคำซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าเมืองน่านองค์สุดท้าย สร้างในสไตล์ตะวันตกพบตะวันออกได้อย่างแสนจะลงตัว ด้านในแบ่งเป็นโซนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของเจ้าผู้ครองนครในสมัยโบราณ ชิ้นงานที่แสดงถึงประวัติศาสตร์เมืองน่าน และที่สำคัญคืองาช้างดำซึ่งเป็นของล้ำค่าคู่เมืองนี้ นี่จึงเป็นอีกพิกัดที่ควรค่าจะแวะมาชม
20. ซุ้มลีลาวดี
มาเดินเล่นกันที่พิพิธภัณฑ์น่านเมื่อไหร่ ขอบอกว่าจะพลาดมุมนี้ไม่ได้เลยน้า เพราะนี่คือไฮไลท์ด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งทุกคนต้องแวะมาเช็คอินกันอย่างถ้วนหน้า เรียกว่าใครไม่มีรูปถ่ายคู่กับซุ้มลีลาวดีตรงนี้ก็เหมือนยังมาเห็นของดีเมืองน่านไม่ครบเลยเชียวละ มาฤดูไหนก็สวยต่างฟีลกันไป แต่ที่แน่ๆ คือเดินทางง่ายเพราะอยู่ใจกลางเมืองเลยจ้า จัดคอสตูมมาให้แน่นได้เลยนะ เชื่อว่าถ่ายยังไงก็งาม!
21. ดอยตีดู้ว์
เป็นดอยที่ให้บรรยากาศสบายๆ พร้อมมีจุดชมวิวสวยๆ ให้แวะถ่ายรูปกันเยอะเชียวละ ที่สำคัญคือเดินทางง่ายมากจ้ะ เพราะขับรถมาจากตัวเมืองราวๆ 30 กิโลเมตรก็ถึงแล้ว ที่นี่เป็นชุมชนของชาวเขาเผ่าม่องบนดอยสูง 700 เมตร ช่วงที่อากาศเป็นใจ ดอยนี้ถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกได้สวยสุดๆ จุดนึงของเมืองน่านเชียวละ มาเมื่อไหร่อย่าลืมทดลองโล้ชิงช้าชาวเขา และเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นของผู้คนที่สุดแสนจะน่ารักด้วยน้า มาได้มาเลยจ้า เชื่อว่าน่าจะประทับใจ
22. ม่อนเคียงดาว
สำหรับคนที่ชอบความชิลล์ของที่พักน่ารักๆ สไตล์แค้มปิ้ง ที่อยู่บนดอยสูงวิวดีซึ่งมีทะเลหมอกขาวๆ ยามเช้าให้ชมกัน ม่อนเคียงดาวเป็นตัวเลือกที่ควรกาดอกจันไว้เลยจ้า ที่นี่เป็นพื้นที่เพาะปลูกซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากดอยเสมอดาว และในช่วงราวเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ชาวบ้านจะแปรสถานที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นที่พักน่ารักน่าเอ็นดูซึ่งเดินทางได้สะดวกสบาย แต่อาจจะต้องจองล่วงหน้ากันเอาไว้สองถึงสามเดือนก่อนเปิดให้เข้าพักเลยน้า ของดีก็ฮ้อตเป็นธรรมดาจ้า จริงมั้ย?
23. ฮักนาไทลื้อ & ฮักนากาแฟ
ใครที่มาเที่ยวอำเภอปัวก็คงต้องปักหมุดวัดภูเก็ตเป็นหนึ่งในจุดเช็คอินกันทั้งนั้นละ และด้านหลังวัดซึ่งจะเป็นทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลในฤดูฝนนั้น เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟสุดน่ารักซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คนึงในปัวที่พลาดไม่ได้ เพราะเป็นคาเฟ่สไตล์ท้องถิ่นที่ชิลล์มากบรรยากาศเปิดโล่งรับลมโชยสบายๆ มีที่ให้นั่งพักกันได้แบบเป็นส่วนตัวไม่แออัดด้วยนะ มายืดแข้งยืดขาก็ได้ มาหาพิกัดสวยๆ ถ่ายรูปก็เพียบจ้ะ ไม่ว่าจะแบบไหนก็ได้หมดละตรงนี้
24. วัดศรีมงคล
อีกหนึ่งวัดสวยสไตล์ล้านนาที่หน้าตาไม่เหมือนใคร เพราะนอกจากในบริเวณวัดจะมีจิตรกรรมฝาผนังสวยๆ มีพิพิธภัณฑ์ในอาคารไม้สไตล์ล้านนาซึ่งเก็บรักษาข้าวของพื้นบ้านตั้งแต่ยุคโบราณที่เปิดให้เข้าไปชมกันได้แล้วนั้น ด้านหลังยังมีพิกัดถ่ายรูปสวยๆ อีกหลายจุดเชียวละ แถมยังมีวิวนาข้าวสีเขียวกว้างไกลที่จะเห็นได้ในฤดูทำนา แล้วยังมีร้านกาแฟและแหล่งช้อปปิ้งให้ได้ไปเดินชิลล์หรือนั่งกินขนมอร่อยๆ กันด้วยนะ ปักหมุดจ้า เป็นอีกพิกัดที่น่าสนใจจริงๆ
25. นาขั้นบันไดโครงการปิดทองหลังพระ
อีกหนึ่งสไตล์ความสวยของทุ่งนาเมืองน่านที่มาในรูปแบบขั้นบันไดบนเนินเขา ผืนนาแห่งนี้อยู่ในพื้นที่โครงการปิดทองหลังพระ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างของหลายหมู่บ้านในละแวกนี้ อยากฟินสุดๆ แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินมาชมที่นี่ในช่วงปลายฤดูฝนนะ เพราะช่วงนั้นนาข้าวจะกลายเป็นทุ่งสีทองกว้างสวยงามน่าประทับใจ ขับรถมาจอดไว้ที่โรงเรียนบ้านขุนน่าน แล้วต่อรถบริการของโครงการพัฒนาเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง ขึ้นไปจะสะดวกที่สุดน้า ปักหมุดจ้า หน้าฝนคือสวยจริง
26. ดอยสวนยาหลวง
ขับรถจากเมืองน่านไปประมาณ 77 กิโลเมตร ก็จะถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อหมู่บ้านสันเจริญ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ดอยสวนยาหลวง ซึ่งการขึ้นสู่ยอดดอยต้องใช้รถโฟว์วีลของชาวบ้านในการเดินทางเท่านั้นจ้า แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนรถก็อาจจะขึ้นได้แค่ระดับนึงเท่านั้นนะแล้วต้องเดินเท้ากันต่อไป บนยอดดอยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย แต่เราจะได้เห็นวิวแจ่มๆ รอบด้านแบบ 360 องศา ถ้าอยากหาที่กางเต็นท์นอนดูดาวตื่นเช้ามาชมวิวสวยแบบสะใจ นี่คือหนึ่งในพิกัดที่เราอยากให้ไปลอง
27. ดอยภูแว
ดอยนี้เป็นหนึ่งพิกัดที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร และเป็นพิกัดที่เราว่าสายลุยน่าจะถูกใจ เพราะการขึ้นไปถึงยอดดอยนั้นต้องเดินเท้าราวๆ 8 กิโลเมตร จุดชมวิวบริเวณยอดดอยนั้นเด็ดเพราะชมความสวยโดยรอบได้แบบ 360 องศา บางคนบอกว่าที่นี่คือยอดเขาซึ่งสวยที่สุดของอุทยานฯ แห่งนี้เลยเชียวนะ การเดินขึ้นมาต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางเด้อ ใครเป็นสายลุยชอบธรรมชาติแบบสะใจ ปักหมุดดอยนี้ไว้เลย
28. วัดพระธาตุช้างค้ำ
ปูชียสถานที่สำคัญกลางเมืองน่านอีกแห่งที่ควรค่าแก่การแวะมา เพราะในเจดีย์สวยสไตล์สุโขทัยของที่นี่นั้นมีพระบรมสารีริกธาตุ โดยส่วนฐานมีการสร้างรูปช้างครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ด้านในวัดยังประดิษฐานองค์พระพุทธรูปทองคำอายุหลายร้อยปี ที่สำคัญคือวัดนี้เดินทางง่ายเพราะอยู่ในพื้นที่กลางเมืองน่าน เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานที่ไม่ควรพลาดการมาเยือนเลยละ
29. บ้านหาดผาขน
เป็นชุมชนเล็กๆ ที่เก่าแก่และมีอายุนับร้อยปี ทอดตัวยาวขนานไปกับลำน้ำน่านและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนจะสมบูรณ์ หมู่บ้านนี้เหมาะกับคนที่หลงรักการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ใกล้กับธรรมชาติ รักการเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากมานอนชิลล์ที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านแล้ว ที่นี่ยังมีบริการล่องแพและเที่ยวชมสวนผลไม้ของชาวบ้าน นับเป็นพิกัดที่เหมาะกับการมาพักใจอีกหนึ่งแห่งในเมืองน่านเลยทีเดียว
30. ตึกรังสีเกษม
ตึกสวยสไตล์โคโลเนียลกลางเมืองน่านที่มีอายุนับร้อยปี ซึ่งเดิมทีเคยเป็นโรงเรียนสอนหนังสือแบบตะวันตกแห่งแรกของเมืองน่าน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ที่ใช้อิฐจากเมืองเชียงใหม่ในการก่อสร้าง ทุกวันนี้ด้านในถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงให้เห็นภาพโรงเรียนในอดีต จึงเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบโบราณมากมาย เป็นอีกพิกัดที่เหมาะกับการใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายรูปเก๋ๆ ได้แบบไม่ซ้ำใครแน่นอน
แม้หน้าหนาวกำลังจะผ่านพ้นไป แต่เมืองน่านก็ยังคงความสวยในสไตล์เนิบช้าที่เชิญชวนให้มาพักใจกันได้แบบไม่มีผิดหวัง สำหรับคนที่มองหาพิกัดเดินทางซึ่งเรียบง่ายไม่วุ่นวายและไม่แออัดในสไตล์ New Normal อยู่นะ เมืองน่านตอนนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และเชื่อว่าคุณจะไม่ผิดหวังเมื่อได้ไปเยือนอย่างแน่นอน