วันนี้ GangBeauty ได้รวบรวมสถานที่เที่ยวกาญจนบุรี มาฝากกัน มีทั้งที่เที่ยวที่ทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สามารถไปเช้า-เย็นกลับ หรืออยากจะนอนค้างสักคืนก็ได้ สำหรับใครที่วางแผนไปเที่ยวกาญจนบุรี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี ตามมาทางนี้เลยค่ะ
1. ทางรถไฟสายมรณะ
เป็นเส้นทางรถไฟแห่งประวัติศาสตร์ สร้างมายาวนานตั้งแต่สมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางรถไฟสายนี้เริ่มตั้งแต่สถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ ช่วงที่เป็นไฮไลท์มีทั้งช่วงที่รถไฟวิ่งข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะ บริเวณถ้ำกระแซ พราะรถไฟจะวิ่งเลียบชายหน้าผาสุดหวาดเสียว แต่ก็เป็นภาพที่สวยงามเช่นกัน
2. โบสถ์สแตนเลส วัดป่าลำขาแข้ง
ตัวโบสถ์นั้นสร้างขึ้นจากสเตนเลสทั้งหมด และยังมีการฉลุลวดลายอย่างสวยงาม และปัจจุบันยังมีเจดีย์สเตนเลสใหญ่ที่สุดในโลก และพระพุทธรูปสเตนเลส หลวงพ่อพระพุทธศรีสวัสดิ์มงคลตั้งอยู่ด้วย ที่นี่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายและบรรยากาศเงียบสงบ การเดินทางไปเที่ยวชมก็ต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไป เพราะตัววัดตั้งอยู่ในเขื่อนศรีนครินทร์
ที่ตั้ง : 85 หมู่ 1 ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
3. ไร่กาลเวลา
ฟาร์มออร์แกนิก ในอำเภอท่าม่วง เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตเกษตรกรสุดเรียบง่าย และได้เลือกซื้อผัก-ผลไม้สดๆ ปลอดสารพิษจากไร่ พร้อมกับทำกิจกรรมสนุกๆ หลายแบบ และยังได้ลิ้มรสอาหารออร์แกนิก กาแฟอาราบิก้ารสชาติเข้มข้น และขนมหวานโฮมเมดอร่อยๆ อีกด้วย
ที่ตั้ง : 2/1 หมู่ 1 ตำบลวังขนาย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
ราคาบัตรเข้าชม : ท่านละ 100 บาท
โทรศัพท์ : 08 0554 4281
เว็บไซต์ kalavelafarm.com, เฟซบุ๊ก ไร่กาลเวลา Organic Farm
4. สวนสัตว์เปิดซาฟารี ปาร์ค
สวนสัตว์เปิดที่น่าท่องเที่ยวมากๆ ทันทีที่ได้เข้าไปด้านในจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแบบซาฟารี เหมือนไปเที่ยวทางฝั่งแอฟริกาใต้ คุณจะได้พบกับสัตว์นานาชนิดอย่างใกล้ชิด เพียงเปิดหน้าต่างกระจกรถยนต์สัตว์ต่างๆ ก็จะเดินมาทำความรู้จักเราอย่างคึกคัก โดยเฉพาะยีราฟ ใครอยากได้ถ่ายรูปกับยีราฟคอยาวตัวเป็นๆ ต้องมาที่นี่เลย นอกจากนี้ยังมีสัตว์หลายชนิด อาทิ ยีราฟ, ช้าง, ม้าลาย, อูฐ, เสือโคร่ง, สิงโต, เสือดาว, หมีควาย, ลามา, นกกระจอกเทศ, กวางชนิดต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีโชว์ช้างและจระเข้ให้ได้ชมกันด้วย
ที่ตั้ง : 40/2 หมู่ 5 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท, ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 550 บาท เด็ก 350 บาท
โทรศัพท์ : 0 3467 8225, 08 6300 0667
เว็บไซต์ safaripark-kan.com, เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ อ.บ่อพลอย
5. เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔
เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ อาณาจักรที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่อดีตในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยที่นี่ได้ถูกสร้างบรรยากาศให้เหมือนเมืองในสมัยก่อนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายด้วยชุดย้อนยุค รวมไปถึงอาหารและขนมโบราณที่หากินได้ยากก็ถูกจัดมาในภาชนะแบบใบตองและแบบไทยๆให้นักท่องเที่ยวใช้อัฐโบราณซื้อสินค้า และยังให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมใส่ชุดไทยเข้าเดินเที่ยวชมด้วย
ที่ตั้ง : 168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
ราคาบัตรค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 120 บาท
โทรศัพท์ : 0 3454 0884-86
เว็บไซต์ mallika124.com, เฟซบุ๊ก เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
6. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
ถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน เกิดจากลำห้วยขมิ้นไหลผ่านลงมาตามชั้นหินปูนน้อยใหญ่ที่ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆ มีทั้งหมด 7 ชั้น ได้แก่ ได้แก่ ดงว่าน, ม่านขมิ้น, วังหน้าผา, ฉัตรแก้ว, ไหลจนหลง, ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า เรียงตามลำดับชั้นที่ 1-7 มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 2,270 เมตร ความสวยงามของที่นี่ก็คือสีของน้ำที่เป็นสีฟ้าเขียวมรกต บางชั้นก็สามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ราคาบัตรเข้าชม : ค่าธรรมเนียมอุทยาน ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท, ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท
โทรศัพท์ : 06 2325 5498 (อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์)